บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม


บทความชุดนี้ ต้องการวิพากษ์วิจารณ์หนังสือ “มักกะลีผล” ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหลวงพ่อวัดปากน้ำ เพราะ มีข้อผิดพลาดมากมาย และจะส่งผลกระทบต่อคนเขียนอย่างที่คาดไม่ถึง

เมื่อได้อ่านบทนำของหนังสือมักกะลีผลก็ทราบว่า ผู้เขียนได้เขียนหนังสือ “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม” ก่อนหน้าหนังสือมักกะลีผล 

ผมก็ต้องตามไปอ่านให้จบเสียก่อนที่จะมาวิพากษ์วิจารณ์กัน

ในหนังสือ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม” มีคำนำของสุทัสสา อ่อนค้อมผู้แต่งหนังสือทั้งสองเล่มดังกล่าวดังนี้

ข้าพเจ้าเกิดในครอบครัวที่บรรพบุรุษนับถือพุทธศาสนา พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย พาเข้าวัดตั้งแต่เล็กๆ โดยเฉพาะเทศกาล "เทศน์มหาชาติ" จะพากันไปวัดตั้งแต่ตีสี่ตีห้า

เพื่อจะได้ฟังพระสวด "คาถาพัน" ได้ครบ ๑,๐๐๐ คาถา ด้วยเชื่อวันว่าเมื่อตายจะได้ขึ้นสวรรค์

ก่อนนอน คุณพ่อคุณแม่ก็จะเล่านิทานที่เกี่ยวกับนรกสวรรค์ให้ฟังเสมอๆ ทำให้ข้าพเจ้าเกิดความคิดที่จะต้องทำความดีจึงจะได้ขึ้นสวรรค์ แล้วไม่อยากทำความชั่ว

เพราะกลัวจะไปตกนรก ความเชื่อเรื่องกรรมจึงมีมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก

เมื่อจบมัธยมต้นจากต่างจังหวัด มาเรียนต่อมัธยมปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา (รุ่น ๒๙) ในกรุงเทพฯ คุณยายของบ้านที่อาศัยอยู่ด้วย ไปฟังเทศน์ที่วัดทุกวันอาทิตย์ ข้าพเจ้าก็ตามคุณยายไปด้วย

จบโรงเรียนเตรียมฯ ก็สอบเข้าเรียนที่คณะอักษรศาสตร์จุฬา พักที่หอพักนิสิตหญิงจุฬาฯ (ปัจจุบันเป็นศูนย์การค้ามาบุญครอง) วันอาทิตย์ก็ได้ไปเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ที่วัดบวรนิเวศ

จบปริญญาตรีแล้ว ทรรศนะที่มีต่อพระพุทธศาสนาก็ยังอยู่ในระดับนรกสวรรค์ ต่อเมื่อเรียนปริญญาโท สาขาปรัชญา ที่คณะและมหาวิทยาลัยเดิม ทำให้ความรู้ทางด้านพระพุทธศาสนากว้างขวางขึ้น

ในด้านการปฏิบัติ ข้าพเจ้าเริ่มปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังเมื่อปี ๒๕๒๖ เมื่อทางวิทยาลัยส่งให้เข้าอบรมปฏิบัติธรรมที่ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี

ข้าพเจ้าได้เป็นศิษย์ของ พระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ ตั้งแต่บัดนั้น (ปัจจุบันหลวงพ่อได้เลื่อนสมณศักดิ์ เป็นที่ พระราชสุทธิญาณมงคล) และชีวิตก็พลิกผันหันเข้าหาธรรมะอย่างเต็มภาคภูมิ

นับแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้ ทรรศนะที่มีต่อพระพุทธศาสนาได้ก้าวพ้นจากระดับนรกสวรรค์ขึ้นมา ข้าพเจ้าไม่อยากเกิดในสวรรค์ เพราะเป็นภูมิที่ยังต้องเวียนว่าย

ข้าพเจ้ามีความใฝ่ฝันที่จะข้ามพ้นจากสงสารสาคร  แต่ก็คงจะเป็นได้เพียงความฝัน เพราะยิ่งปฏิบัติก็ยิ่งพบว่าการจะเข้าถึงมรรค ผล นิพพาน นั้นยากแสนยาก และหากผู้ปฏิบัติขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ก็อาจหลงทางได้ง่าย

การไปวัดอย่างสม่ำเสมอ เรื่องได้ฟังธรรมเทศนาจากท่านเจ้าคุณหลวงพ่อหลายต่อหลายครั้ง บางเรื่องก็ฟังซ้ำถึงหกเจ็ดครั้ง (แต่ข้าพเจ้าก็ไม่เคยเบื่อ) และความที่เป็นคนช่างจดช่างจำ เรื่อง "ไฟไหนเล่าร้อนเท่าไฟนรก" และ "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม" จึงเกิดขึ้น

สุทัสสา อ่อนค้อม
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

เมื่อผมอ่านคำนำของหนังสือ “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม” จบแล้ว  รู้สึกสมเพทเวทนากับ สุทัสสา อ่อนค้อม เป็นอย่างยิ่ง

ในปัจจุบันนี้ กายละเอียดของสุทัสสา อ่อนค้อม ได้ถูกธาตุธรรมเอาไปลงโทษแล้ว  เมื่อไหร่กายเนื้อตาย สุทัสสา อ่อนค้อมก็จะไปอบายภูมิ และรับทุกข์ทรมาณตามกรรมที่กระทำไป

ท่านผู้อ่านอ่านจะสงสัยว่า กรรมของสุทัสสา อ่อนค้อมมาจากไหน และผมรู้อย่างไร และผมมีหลักฐานใดที่จะยืนยันว่า ข้อเขียนของผมนั้นเป็นความจริง

ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า ผมบวชที่วัดอัมพวัน 1 พรรษา อุปัชฌาย์ก็คือ หลวงพ่อวัดอัมพวัน (หลวงพ่อจรัล/หลวงพ่อวัดป่ามะม่วง) นั่นเอง

นอกจากนั้นแล้ว การบวชในครั้งนั้นก็ไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียว หลวงพ่อวัดอัมพวันออกให้หมดทุกบาททุกสตางค์

วันที่ผมบวชนั้น บวชพร้อมกัน 5 รูป

ผมยังคงนับถือและบูชาหลวงพ่อวัดอัมพวันของผมเหมือนเดิม แต่วิชาการก็คือวิชาการ  ความถูกต้องก็คือความถูกต้อง 

เมื่อจำเป็นจะต้องวิพากษ์วิจารณ์กัน  ผมก็จะวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความเคารพ เพื่อความถูกต้องของพระศาสนา

อย่างไรก็ดี ในบทความชุดนี้ ผมเพ่งเล็งวิพากษ์วิจารณ์ไปที่สุทัสสา อ่อนค้อม เท่านั้น  เมื่อมีเหตุการณ์ที่จะกล่าวถึงหลวงพ่อวัดอัมพวัน ก็จะกล่าวถึงพอสมควร

แต่ขอประกาศไป ณ ที่นี้ว่า ผมบวชที่วัดอัมพวัน 1 พรรษา ลงโบสถ์ตั้งแต่ตี 4 ถ้าหลวงพ่อไม่ติดธุระอะไรก็จะมาเทศน์ (ด่า) ทุกวัน 

ผมไม่เคยได้ยินว่า หลวงพ่อวัดอัมพวันวิพากษ์วิจารณ์หลวงพ่อวัดปากน้ำเลย แม้แต่คำเดียว

กลับมาถึงเรื่อง “กรรม” ของสุทัสสา อ่อนค้อม 

ในหนังสือมักกะลีผล มีหลายตอนที่สร้างความเสียหายให้กับหลวงพ่อวัดปากน้ำ สุทัสสา อ่อนค้อมจะจงใจหรือไม่นั้น  ผลกรรมนั้นเกิดขึ้นแล้ว

เมื่อมีคนนำเอาเนื้อหาของหนังสือมักกะลีผล ไปขยายความต่อ จนเกิดเรื่องถกเถียงกันไปวุ่นวาย

พูดกันในฐานะนักวิชาการด้วยกันแล้ว  หนังสือนวนิยายนั้น ไม่ควรเอามาเป็นหลักฐานถกเถียงกัน เพราะ มันเป็นเรื่องแต่ง  ต้นกำเนิดของนวนิยายคือ ยุโรปรวมถึงอเมริกา คนอ่านเขาจะแยกกันออกว่า “สิ่งไหนคือเรื่องแต่ง สิ่งไหนคือเรื่องจริง

แต่สังคมไทย มันไม่ใช่อย่างนั้น คนอ่านชาวไทยส่วนมากเลย แยกไม่ออกระหว่างเรื่องจริงกับเรื่องแต่ง

เมื่อมีการโจมตีหลวงพ่อวัดปากน้ำจากหนังสือมักกะลีผล  คนอ่านก็เชื่อตามไป และเอาไปขยายความต่อ

คนแต่งจึงต้องรับโทษทัณฑ์ไปเพราะหนังสือนี้ ทำให้คนโจมตีหลวงพ่อวัดปากน้ำ 

บางคนอาจจะแย้งว่า ถึงไม่มีหนังสือมักกะลีผล ก็มีคนโจมตีหลวงพ่อวัดปากน้ำอยู่ดี  พูดอย่างนั้นก็ถูก  แต่สุทัสสา อ่อนค้อมจะไม่โดนลงโทษ ใครโจมตีก็ถูกลงโทษไป

ต่อไปถึงคำถามที่ว่า ผมรู้ได้อย่างไรว่า กายละเอียดของสุทัสสา อ่อนค้อมถูกธาตุธรรมเอาไปลงโทษแล้ว!!

ตรงนี้ ขอบอกว่า วิชชาธรรมกายสามารถตรวจสอบได้ มีหลักฐานทั้งเอกสารตำรับตำรา และมีผู้ที่ปฏิบัติตามตำรานั้นได้

สำหรับหลักฐานยืนยันว่า ข้อเขียนของผมเป็นความจริงก็คือ ตำราวิชาธรรมกาย ประสบการณ์สอนวิชาธรรมกายประมาณ 10 ปีของผมเอง

ประการสำคัญที่สุดก็คือ  กลุ่มพวกผมมวิทยากรที่เก่งวิชาธรรมกายในระดับสูงที่สามารถตอบคำถามได้ 

ปัญหามันอยู่ที่ว่า “ท่านอยากจะรู้จริงๆ อย่างนั้นหรือเปล่า” เท่านั้น 




2 ความคิดเห็น:

  1. ไปๆมาๆ ผมก็ชักจะสงสารพวกสายอื่นเหมือนกัน พวกนี้มีความเพียร แต่ดันไปขยันผิดที่ ก็เลยไม่สำเร็จ ก็คล้ายๆกับผมเมื่อก่อน ที่ดันไปขยันผิดเรื่อง

    อย่างสุทัสสา อ่อนค้อมผู้นี้ ถ้าไม่นับเรื่องโจมตีวิชชาธรรมกาย ก็ถือได้ว่าเป็นคนที่หาได้ยากคนหนึ่งในโลกสมัยนี้ นี่ถ้าขยันถูกเรื่อง ก็คงไม่ต้องมามีจุดจบแบบนี้

    มีอีกคนหนึ่ง ที่ผมสงสารจนร้องไห้ ก็คือ ศาสดามหาวีระของศาสนาเชน รายนั้นก็ขยันผิดที่สุดๆ

    ปล. ดร. เคยบวชที่วัดอัมพวัน แล้วเคยเจอแม่กาหลงหรือเปล่าครับ

    ตอบลบ
  2. ไม่เจอหรอก ผีหรือเทวดาเล็กๆ ไม่กล้ายุ่งกับผม

    ตอบลบ