บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

พระเจริญฝึกวิชาธรรมกาย

หลังจากที่หนังสือมักกะลีผลพาพระเจริญมาพบหลวงพ่อวัดปากน้ำแล้ว ต่อจากนั้นก็มาถึงตอนพระเจริญฝึกวิชาธรรมกายด้วยตัวของท่านเอง

จากนั้น จึงนั่งขัดสมาธิ เท้าขวาทับเท้าซ้าย มือขวาทับมือซ้าย นิ้วหัวแม่มือเหลื่อมกัน แล้วจึงเริ่มต้นภาวนา “สัมมาอรหัง”

ตั้งจิต ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะภาวนาอยู่อย่างนี้ไป จนกว่าเทียนจะหมดเล่ม

……………………

จึงนั่งหลับตามภาวนาต่อไป พอจิตจวนจะตั้งมั่น ความคิดก็เข้ามารบกวน ท่านคิดโน่นคิดนี่เรื่อยเปื่อย พอรู้ตัวก็กลับมากำหนด “สัมมาอรหัง” ต่อ

(หนังสือมักกะลีผล เล่ม 2 หน้า 963)

ข้อความข้างต้นของหนังสือมักกะลีผลเป็นหลักฐานยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า สุทัสสา อ่อนค้อมไม่เคยศึกษาวิชาธรรมกายจากเอกสาร 

ความรู้ทางวิชาธรรมกายของสุทัสสา อ่อนค้อมเป็นเรื่องเล่าสืบต่อกันมา ของพวกที่ไม่ชอบวิชาธรรมกายเท่านั้น

สุทัสสา อ่อนค้อมไม่เคยเข้าใจการปฏิบัติธรรมแบบวิชาธรรมกายเลยแม้แต่น้อย 

การปฏิบัติธรรมแบบวิชาธรรมกายนั้น ถ้านั่งก็คล้ายกับการปฏิบัติธรรมสายอื่นคือ เท้าขวาทับเท้าซ้าย มือขวาทับมือซ้าย 

ที่ต่างออกไปก็คือ นิ้วชี้มือขวาจะจรดกับหัวแม่มือข้างซ้าย ไม่ใช่ “นิ้วหัวแม่มือเหลื่อมกัน

ความผิดพลาดที่สำคัญที่สุดก็คือ สุทัสสา อ่อนค้อมไม่รู้ว่า การปฏิบัติธรรมแบบวิชาธรรมกายเป็นอย่างไร

การปฏิบัติธรรมแบบวิชาธรรมกายนั้น จะต้องท่องบทสวดวิธีบูชาพระ ว่าก่อนภาวนาทุกครั้งเสียก่อน

ถ้าสงสัยว่าบทสวดนั้น เป็นอย่างไรก็ไปอ่านที่นี่



เมื่อท่องบทสวดเสร็จแล้ว เราก็จะต้องเอาใจจรดไปตามฐานทั้ง 7 ฐาน ดังนี้ 

คนเมื่อฝึกใหม่ๆ ยังไม่เห็นดวงปฐมมรรคของตนเอง ก็นึกใช้จินตนาการนึกเป็นดวงนิมิตกลมใสไปตามฐานทั้ง 7

แต่คนที่เก่งแล้ว ผ่านวิชา 18 กายแล้ว แค่เอาจะไปหยุดตามฐานทั้ง 7 ก็จะเห็นดวงใสอยู่ตามฐานนั้น ดวงใสนั้นอยู่ที่นั่นจริงๆ ไม่ใช่นึกเอา

หลักจากนั้น จึงไปภาวนาอยู่ที่ฐานที่ 7 นึกให้เห็นดวงใสไปด้วย ท่องคำภาวนาไปด้วย  คือ ใจต้องทำงาน 2 อย่าง 

ถ้าทำอย่างใดอย่างหนึ่ง เดี๋ยวใจก็เผลอไปเรื่องอื่น

ที่ผิดต่อมาก็คือคำนี้  “พอรู้ตัวก็กลับมากำหนด “สัมมาอรหัง” ต่อ”  คำว่า “กำหนด” เป็นคำในสายยุบหนอพองหนอ ไม่ใช่คำของสายวิชาธรรมกาย  สายวิชาธรรมกายไม่ใช่คำนี้

เมื่อใจของเราเผลอไปคิดเรื่องอื่นแล้ว พอนึกได้ ก็มาภาวนาสัมมาอะระหังและนึกให้เห็นดวงใสใหม่  วิชาธรรมกาย ไม่ใช้คำว่า “กำหนด”

จากที่เขียนมาทั้งหมดถึง 6 บทความแล้ว จะเห็นว่า สุทัสสา อ่อนค้อมไม่ได้มีหมายความรู้ในวิชาธรรมกายในระดับที่นักวิชาการระดับดอกเตอร์ควรจะเป็น

เป็นความผิดพลาดที่อภัยกันไม่ได้ ในฐานะที่เป็นนักวิชาการด้วยกัน  แต่การที่อภัยกันไม่ได้ในทางวิชาการนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบอันใดต่อสุทัสสา อ่อนค้อม

สิ่งที่น่ากลัวเป็นอย่างมากก็คือ การอภัยให้กันไม่ได้ในทางธาตุธรรม  เพราะ ประการหลังนี้ ส่งผลกระทบอันมากมายมหาศาลอย่างที่สุทัสสา อ่อนค้อมคาดไม่ถึงเลยทีเดียว


แต่...รอให้สุทัสสา อ่อนค้อมตายเสียก่อน แล้วท่านก็จะเสียใจต่อการเกิดในชาตินี้อย่างสุดซึ้งเลยทีเดียว........





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น