บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

นารีผลกับความเท็จ [3]

เรามาวิพากษ์วิจารณ์ข้อเขียนของคุณธารณธรรมกันต่อ และก็เหมือนเดิม ค่อยๆ อ่านไป ผมจะวิพากษ์วิจารณ์ไปด้วย

๑๒. ปี ๒๔๙๗ ศึกษาและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน กับเจ้าคุณอาจารย์พระอุดมวิชาญาณเถระ วัดมหาธาตุ จังหวัดพระนคร

ต่อมาเป็นพระธรรมธีรราชมหามุนี เจ้าคณะภาค ๙ (พระอาจารย์ใหญ่ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ)

นิยายมักกะลีผลบอกให้ทราบว่า ท่านป่าม่วงเรียนกรรมฐานกับท่านเจ้าคุณโชดกเมื่อ “เดือนมิถุนายน - เดือนตุลาคม ๒๔๙๗”

ดังนั้นท่านป่าม่วงต้องได้ฟังการเทศน์ลำดับญาณปลายเดือนตุลาคม ก่อนที่จะย้ายไปอยู่ที่วัดระฆังเพื่อเรียนอภิธรรมที่วัดระฆังเป็นเวลา ๓ เดือน

จึงเป็นไปไม่ได้ที่ท่านป่าม่วงจะได้ฟังเทศน์ลำดับญาณพร้อมสมเด็จพระศรีนครินทราพระบรมราชชนนี เพราะพระองค์ท่านทรงเริ่มปฏิบัติกรรมฐาน เมื่อ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๘ หลักสูตร ๑ เดือน

ดังนั้น การบอกใครๆ เขียนในเว็บ หรือเขียนประกาศว่าฟังเทศน์ลำดับญาณพร้อมสมเด็จพระศรีนครินทราพระบรมราชชนนี นั้นเป็นการอาจเอื้อมเบื้องสูงโดยแท้

ถ้ามีการเอาเรื่องนี้ขึ้นสู่โรงศาล คงมีคนต้องคดีหลายคน

และเป็นไปไม่ได้ที่ได้ฟังเทศน์ลำดับญาณพร้อมหลวงพ่อวัดปากน้ำ ที่ถูกเกณฑ์ให้เรียนกรรมฐานแบบหนอเมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๘ หลักสูตร ๑ เดือน เพราะท่านป่าม่วงออกจากวัดมหาธาตุไปแล้วประมาณ ๓-๔ เดือน

เพราะการฟังเทศน์ลำดับญาณนั้น เขาฟังกันเฉพาะผู้ที่บรรลุญาณ ๑๖ ใหม่ๆ ไม่ใช่จบไปตั้งนานแล้วกลับมาฟังพร้อมผู้เพิ่งจบ ไม่มีสำนักปฏิบัติกรรมฐานแบบหนอที่ไหนเขาปฏิบัติกัน

ดังนั้น เรื่องที่บอกว่าได้ฟังได้ยินเรื่องที่หลวงพ่อวัดปากน้ำพูดกับเจ้าคุณโชดก จึงเป็นไปไม่ได้ เป็นการจินตนาการเขียนเอาเอง

เป็นที่ทราบกันดีสำหรับพวกปฏิบัติกรรมฐานสายหนอ ว่าสำนักวิเวกอาศรม ชลบุรี สมัยที่พระอาจารย์อาสภเถระเป็นเจ้าสำนัก หลวงพ่อเดือนเป็นผู้ช่วยนั้น

ทางสำนักวิเวกอาศรมไม่รับรองผู้ที่ต้นสำนักท่านป่าม่วงบอกว่า บรรลุญาณ ๑๖ เพราะเคยมีตัวอย่างที่ต้นสำนักรับรองสามเณรรูปหนึ่ง เข้าใจว่าเป็นรูปแรกเพราะเห็นตื่นเต้นกันใหญ่

แต่พระอาจารย์อาสถเถระท่านคัดค้านว่าไม่ใช่ และเป็นดังที่ท่านอาจารย์อาสภเถระบอก เพราะสามเณรคนนั้นสึกแล้วเป็นขโมย

มีบุคคลกลุ่มหนึ่งที่ทางสำนักเดิมรับรองว่าบรรลุญาณ ๑๖ แล้ว ไปปฏิบัติธรรมที่สำนักวิเวกอาศรม เนื่องจากบุคคลเหล่านั้นไม่ได้บรรลุญาณ ๑๖ จริง

จึงคิดทำการใหญ่ อยากเป็นเจ้าสำนัก จึงรวมหัวกันทำร้ายพระอาจารย์อาสภเถระจนท่านสลบ โชคดีที่ท่านไม่มรณภาพ พวกบรรลุญาณ๑๖เทียม เลยเข้าคุกไปตามระเบียบ

๑๓. ปี ๒๔๙๘ ศึกษาพระอภิธรรม กับอาจารย์เตชิน (ชาวพม่า) วัดระฆังโฆษิตาราม จังหวัดธนบุรี ๓ เดือน

นิยายตุ๊กตาผลบอกให้ทราบว่า ท่านป่าม่วงเรียนอภิธรรมที่วัดระฆังเมื่อ พฤศจิกายน ๒๔๙๗ – มกราคม ๒๔๙๘

๑๔. กฎแห่งกรรม ......เล่มที่๕ ท่านป่าม่วงบอกว่าพบแม่ชุมศรีแม่ในอดีตชาติเมื่อ ๕ กุมภาพันธ์... และบอกว่าจำปีไม่ได้ (หมายถึงขณะที่กำลังเทศน์ ต้องกลับไปดูบันทึกจึงจะทราบ)

โชคดีที่นิยายตุ๊กตาผลบอกให้ทราบว่า ท่านป่าม่วงได้พบแม่ในอดีตชาติเมื่อ “๕กุมภาพันธ์ ๒๔๙๘”

๑๕. ปี ๒๔๙๘ ศึกษาการพยากรณ์ จากสมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทยมหาเถระ) วัดสระเกศ จังหวัดพระนคร

15. เป็นที่น่าสังเกตว่า นิยายตุ๊กตาผลเขียนว่า ท่านป่าม่วงประกาศว่า ตนบรรลุญาณ ๑๖ แล้ว เป็นพระโสดาบัน เหมือนจบปริญญาตรีแล้ว หลังจากเรียนอภิธรรมวัดระฆัง ๓ เดือนแล้วจึงกลับไปอยู่วัด

ดังนั้นการศึกษาการพยากรณ์กับสมเด็จพระสังฆราชอยู่วัดสระเกศต้องหลังกลางเดือนกุมภาพันธ์ ๒๔๙๘ไปแล้ว

แต่อยากตั้งข้อสังเกตว่า การศึกษาวิชาโหราศาสตร์นั้น ผิดวิสัยของพระอริยบุคคล เพราะวิชาโหราศาสตร์จัดเป็นสีลัพพตปรามาส นั้นหมายความว่า ท่านป่าม่วงยังไม่ได้เป็นพระอริยบุคคลเท่านั้นเอง

สมจริงตามที่พระอาจารย์อาสภเถระไม่รับรองบุคคลที่ทางต้นสำนักของท่านป่าม่วงบอกว่าบรรลุญาณ ๑๖

๑๖. หนังสือกฎแห่งกรรมเล่ม๕ เขียนว่า “ท่านป่าม่วงมีนิมิตกรรมฐานว่า เราก็รู้มาก่อนที่จะไปบ้านแม่...... ในนิมิตนี้ก็บอกว่า ไปรบทัพจับศึกกัน

ยังรู้สึกว่าจำได้ว่ามันฟันอะไร เพราะอ้ายพม่ารามัญเตรียมจากธนบุรีตามลำน้ำ มันก็ขึ้นมาหมดแล้ว ไม่มีเหลือแล้ว และเราจำต้องไปรบกับพม่า ใช้เรือรบที่บางไทร ฆ่าพม่าตายมากมาย

เลยพอดีโดนกลศึกวิธีคนไทยด้วยกัน ถีบเราหลุดตกน้ำถึงแก่ความตาย แล้วดาบนั้นพวกนี้เอาไป

แล้วก็ซัดเซพเนจรไปเรื่อยๆ กระทั่งไปอยู่ถึงเชียงใหม่ แล้วล่องกลับมาถึงกรุงศรีอยุธยาตามเดิม แล้วเราก็นิมิตว่า เราตกน้ำตาย นี่อาตมาไม่ได้ดาบอาตมาตายไปแล้ว’ (กฏแห่งกรรม –ธรรมปฏิบัติ เล่ม ๕ หน้า ๖๔-๖๕)

แต่นิยายตุ๊กตาผล “...ส่วนตัวท่านป่าม่วงซึ่งเป็นแม่ทัพจะหนีเอาตัวรอดไม่ได้ จึงจำใจสู้แม้ขาดขวัญและกำลังใจ ด้วยฝีมือและชั้นเชิงในการรบ ท่านไม่มีวันแพ้พม่าได้ แต่ฝ่ายพม่าใช้แผนสกปรก ใช้กลศึกวิธีฆ่าท่านจนได้

เมื่อทหารนำศพท่านใส่เรือมาส่งที่ศาลาท่าน้ำ แม่........วิ่งร้องให้มาจากบนเรือน ผ้าผ่อนท่อนสไบหลุดลุ่ย หล่อนกอดศพท่านร่ำให้จนปิ่มว่าจะขาดใจ และในชาตินี้หล่อนก็ได้มาเกิดอีก รูปร่างหน้าตาเปลี่ยนไป

จะเห็นว่าเรื่องเดียวกัน เหตุการณ์เดียวกัน ท่านป่าม่วงไม่เคยเล่าตรงกัน

นี่เป็นเรื่องน่าคิด ว่าเป็นเรื่องที่เห็นในนิมิตจริงๆ หรือเป็นเรื่องยกเมฆ เพราะว่าถ้าเห็นจริงพูดร้อยครั้งก็ต้องเหมือนกันร้อยครั้ง

ถามว่า แม่ทัพคนเก่งของอยุธยา ที่ไม่มีใครสู้ได้ แม่ทัพคนอื่นต่างพากันอิจฉา อยากได้ตำแหน่งของตน แต่ไร้ความสามารถ ไม่รู้จักวิชาทางน้ำเลยเชียวหรือ แค่ถีบตกน้ำก็ถึงแก่ความตาย

และที่น่าสงสัยยิ่ง ที่บอกว่าสารขัณฑ์ประเทศจะต้องนำแม่ทัพคนอื่นไปแลกเปลี่ยน พม่าหรือจะโง่ยอมแลกแม่ทัพคนเก่งกับแม่ทัพที่ไร้ฝีมือ เว้นแต่ได้เกลี่ยกล่อมให้แม่ทัพเชลยศึกคนนั้นเป็นไส้ศึกเรียบร้อยแล้วจึงจะยอมให้แลกเปลี่ยน

ซึ่งเรื่องแบบนี้ไม่เคยมีปรากฏในประวัติศาสตร์แห่งสารขัณฑ์ประเทศ และที่น่าสังเกตท่านเทศน์ดูถูกคนไทย แล้วชี้ที่ตัวเองว่าตนไม่ใช่คนไทย ...... พ่อเป็น........ แม่เป็น.......

จึงใคร่เชิญชวนนักประวัติศาสตร์ หันมาพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่ใช่กลัวต่อคำว่าพระอรหันต์ จนไม่กล้าทำอะไร อย่างที่นักวิชาการควรกระทำ

เพราะพระอรหันต์จริง ท่านยินดีสนับสนุนให้ผู้คนพิสูจน์สิ่งที่ท่านพูดว่าจริงหรือเท็จ ไม่มีโทษ มีแต่คุณสถานเดียว เว้นแต่อรหันต์เทียมเท่านั้นที่กลัวการพิสูจน์

๑๗. คุณแม่ท้วมเป็นนางสาวท้วม หุตานุกรม ไม่เคยแต่งงาน ท่านมาอยู่วัดปากน้ำตั้งแต่อายุ ๓๕ ท่านเป็นหัวหน้าอุบาสิกาวัดปากน้ำและหัวหน้าโรงครัว (วุฑฺฒสีล, ๒๔๙๗, ประวัติ “คุณแม่” ใน นวกะ อนุสรณ์ ๒๔๙๗, วัดปากน้ำ, ภาษีเจริญ, กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ไทยพณิชยการ, หน้า ๗๑ –๗๘)

แต่นิยายตุ๊กตาผล เขียนว่าท่านป่าม่วงบอกว่าโยมท้วม ครั้นสามีตายและลูกเต้าออกเหย้าออกเรือนกันไปหมด แกจึงมาอยู่วัดอย่างถาวรตอนอายุหกสิบพอดิบพอดี

ซึ่งไม่ทราบว่าเขียนมาได้อย่างไร ไม่กลัวเขาจับได้หรือว่าเป็นเรื่องไม่จริง เป็นการทำลายเครดิตตัวเองโดยแท้ คงเป็นเรื่องนึกไม่ถึงว่าจะมีคนมาค้นพบความจริงในภายหลัง เพราะว่าความลับไม่มีในโลก

๑๘. เรื่องพระเวสสันดรในนิยายตุ๊กตาผลนั้น บอกว่าพระอินทร์เนรมิตต้นตุ๊กตาผล ๑๖ ต้น ให้ออกผลเฉพาะวันที่พระนางมัทรีออกหาอาหาร เพื่อป้องกันฤาษีลามกไม่ให้ไปลวนลามพระนางมัทรี

เปิดโอกาสให้ฤาษีลามกเก็บตุ๊กตาผลไปทำเมีย และบอกว่า ป่าหิมพานต์ที่พระเวสสันดรอยู่มีหิมะปกคลุม

ถ้าป่าที่พระเวสสันดรอยู่มีหิมะปกคลุมจริง ตุ๊กตาผลก็จะกลายเป็นตุ๊กตาหิมะ ใครจะเอามาทำเมียได้ ป่าที่พระเวสสันดรอยู่ไม่ใช่ป่าหิมพานต์

ถ้าเป็นป่าหิมพานต์จริง ก็ต้องมีต้นนารีผลโดยธรรมชาติ ไม่ต้องให้ใครเนรมิต และนารีผลนี้จะอยู่ได้เพียง ๗ วันเท่านั้น นานกว่านี้ก็จะเน่า

และป่าที่พระเวสสันดรอยู่ ก็ไม่มีฤาษีลามกแม้แต่ตนเดียว มีพูดถึงฤาษีเพียงตนเดียว คือ อจุตฤาษีซึ่งเป็นผู้บอกทางให้ชูชกไปพบพระเวสสันดร

๑๙. ท่านป่าม่วงเทศน์ที่สำนักปฏิบัติธรรมสวนแก้ว เมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๔๑ เทศน์ว่า อาจารย์แม่ชีหวานใจ ( เจ้านักปฏิบัติธรรมสวนแก้ว) จิตท่านงอก จิตท่านสดใส ใจสะอาดเหมือนดวงแก้ว

กล่าวคือนิพพาน ปราศจากโลภโกรธหลง ไม่มีอะไร ฉุดให้พะวักพะวง อยู่ในดวงใจให้ขุ่นมัวอีก นึกเงินไหลหนองนึกทองไหลมา”

อาจารย์แม่ชีหวานใจ ชูกร เป็นศิษย์หลวงพ่อโดยตรง ท่านไปสร้างสำนักปฏิบัติธรรมสวนแก้ว ที่อำเภอจอมบึง ปฏิบัติกรรมฐานสมถวิปัสสนาวิชชาธรรมกายมาตลอด

ท่านเขียน หนังสือ “วิชชาพระธรรมกาย (ปราบมาร) ดังนั้นถ้าท่านจะเป็นพระอริยบุคคล ท่านก็เป็นด้วยวิชชาธรรมกาย

การที่ท่านป่าม่วงพูดแบบนี้ก็ถือว่ารับรองวิชชาธรรรมกายไปในตัว ว่าวิชชาธรรมกายก็ทำให้คนบรรลุพระอรหันต์ได้ ไม่เป็นการขัดแย้งกับที่ท่านป่าม่วงชอบพูดว่าวิชชาธรรมกายแก้ทุกข์ประจำไม่ได้หรือ

จากคุณ : ธารณธรรม - [ 18 ส.ค. 49 17:24:52 ]






1 ความคิดเห็น:

  1. Harrah's Resort Atlantic City - MapYRO
    Harrah's 광명 출장마사지 Resort 남양주 출장안마 Atlantic 평택 출장안마 City is located 강릉 출장마사지 in the Marina District and is a short drive 동해 출장안마 from Harrah's Atlantic City. It also provides laundry facilities and

    ตอบลบ