บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

ระลึกชาติได้แบบมหาโชดก

พระเจริญเรียนยุบหนอพองหนอเที่ยวแรก ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน  เณรทองดีที่มาด้วย มีจดหมายมาตามให้กลับบ้าน เพราะโยมแม่ของเณรทองดีป่วยหนัก

พระเจริญจึงกลับไปด้วย เมื่อไปลามหาโชดก มหาโชดกพูดกับพระเจริญว่า พระเจริญต้องกลับมาที่วัดมหาธาตุอีก ถึงแม้ว่า พระเจริญตั้งใจไว้ว่า จะไม่กลับมาอีก

เมื่อพระเจริญสงสัยและสอบถาม มหาโชดกจึงตอบว่า

รู้ได้จากการปฏิบัติน่ะซี

อย่าลืมนะสติปัฏฐาน 4 สำคัญมาก ทำให้ระลึกชาติได้ เห็นกฎแห่งกรรม และเกิดปัญญาแก้ปัญหาชีวิต หากเธอตั้งใจปฏิบัติต่อไป ไม่นานเธอก็จะรู้อย่างที่ฉันรู้”

ประเด็นที่ว่า สติปัฏฐาน 4 สำคัญมาก ทำให้ระลึกชาติได้ เห็นกฎแห่งกรรม และเกิดปัญญาแก้ปัญหาชีวิต นั้น หนังสือมักกะลีผลเน้นมาก กล่าวไว้หลายครั้ง

ผมก็แย้งไปแล้วว่า เป็นไปไม่ได้ที่สติปัฏฐาน 4 จะทำให้ระลึกชาติได้ เพราะ วิชาระลึกชาตินั้นอยู่ในวิชชา 3 ไม่ได้อยู่ในสติปัฏฐาน 4

แต่อย่างไรก็ดี ผมก็ยังไม่รู่ว่า การระลึกชาติของมหาโชดกนั้นเป็นอย่างไร

ผมมาพบคำตอบในหนังสือมักกะลีผลในหน้า 1118-1119 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ตอนที่พระเจริญกลับมาวัดมหาธาตุอีกครั้ง หลังจากไปประสบอุบัติเหตุรถคว่ำที่จังหวัดตาก และรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด

หนังสือมักกะลีผลบรรยายคำถามคำตอบของพระเจริญกับมหาโชดกไว้ดังนี้

“ที่กระผมไม่ตายเพราะอานิสงส์ของวิปัสสนาใช่ไหมครับ”

“ถูกแล้ว” พระอุดมวิชชาญาณตอบและอธิบายต่ออีกว่า

“การเจริญวิปัสสนาตามแนวสติปัฏฐาน 4 นั้นมีอานิสงส์สามประการคือ หนึ่งระลึกชาติได้ สองเห็นกฎแห่งกรรม และสามเกิดปัญญาแก้ปัญหาชีวิตได้ เธอได้รับอานิสงส์ครบสามข้อนี้แล้ว

“หมายความว่าอย่างไรครับ กระผมระลึกชาติไม่ได้นะครับ ท่านเจ้าคุณอาจารย์” พระหนุ่มรีบออกตัว

“ทำไมจะไม่ได้ การระลึกชาติได้นั้น มิได้หมายความเฉพาะระลึกชาติที่แล้วๆ มาได้เท่านั้น

การที่เธอจำได้ว่า เมื่อเธอเรียนประถม 4 เคยรับจ้างเผาบ้านเขา นั่นแหละ คือการระลึกชาติได้ และการที่เธอต้องนอนหนาวอยู่ในเหว รู้ว่าที่เป็นเช่นนั้น เพราะเคยทำให้คนอื่นเขาหนาว ก็แปลว่า เธอได้เห็นกฎแห่งกรรมแล้ว

ใครทำกรรมอะไรไว้ กรรมนนั้น ต้องมาสนองไม่เว้นใดก็วันหนึ่ง”

“ถ้าเช่นนั้นแล้ว กระผมก็ได้อานิสงส์เพียงสองข้อครับ ส่วนข้อที่สามยังไม่ได้” ลูกศิษย์พยายามโต้แย้ง

“ได้ซิ ก็ตอนเธอไปเรียนวิชากับหลวงพ่อลี ภายหลังเกิดปัญญาหยั่งรู้ว่า วิชาอะไรก็สู้วิปัสสนากรรมฐานไม่ได้ และตั้งใจมุ่งมั่นว่า จะต้องกลับมาเรียนต่อให้สำเร็จ นี่ไม่ใช่อานิสงส์ข้อที่สามหรอกหรือ”

(หนังสือมักกะลีผล เล่มที่ 2 หน้า 1118-1119)

คำสอนของมหาโชดกที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เป็นคำสอนที่เป็นสมองหมา ปัญญาควายจริงๆ ไม่ได้สอดคล้องกับพระไตรปิฎก

เป็นคำสอนที่งี่เง่า ถูๆ ไถๆ ไปจริงๆ

ผมมีหลักฐานสนับสนุน ดังนี้

1) การปฏิบัติธรรมแบบสายยุบหนอพองหนอที่เดินไปเดินมา พิจารณาอิริยาบถใหญ่ อิริยาบถย่อย ให้รู้สึกตัวโดยมีสติตลอดเวลา และพิจารณาพระไตรลักษณ์ไปด้วย  ไม่ใช่ “วิปัสสนากรรมฐาน

เพราะ วิปัสสนากรรมฐาน โดยศัพท์เลยแปลว่า “เห็นแจ้ง” การปฏิบัติธรรมแบบสายยุบหนอพองหนอ มีการเห็นแจ้งหรือไม่

นอกจากนั้นแล้ว วิปัสสนาภูมินั้น มี 6 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้

ขันธ์ 5
อายตนะ 12
ธาตุ 18
อินทรีย์ 22
อริยสัจ 4
ปฏิจจสมุปบาท 12

2) สติปัฏฐาน 4 ไม่ใช่วิปัสสนากรรมฐาน

ดูจากหัวข้อธรรมะข้างบนั้นก็ได้  สติปัฏฐาน 4 เป็นเพียงอนุปัสสนาเท่านั้น  อนุปัสสนา แปลว่า ตามเห็น 

3) การระลึกชาติในวิชชา 3 พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ ดังนี้

ภิกษุนั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส อ่อน ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว อย่างนี้

ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่อ ปุพเพนิวาสานุสติญาณ เธอระลึกชาติที่เคยอยู่อาศัยกาลก่อนได้เป็นอันมาก คือระลึกได้หนึ่งชาติบ้าง สองชาติบ้าง ... ระลึกชาติที่เคยอยู่อาศัยในกาลก่อนได้เป็นอันมาก พร้อมทั้งอาการ พร้อมทั้งอุเทส ด้วยประการฉะนี้

เปรียบเหมือนบุรุษ ออกจากบ้านของตน ไปสู่บ้านอื่น ออกจากบ้านแม้นั้นไปสู่บ้านอื่น ออกจากบ้านแม้นั้นแล้ว กลับมาสู่บ้านของตนตามเดิม

เขาจะพึงระลึกได้ว่า เราออกจากบ้านของตนไปสู่บ้านโน้น ในบ้านนั้น เราได้ยืนอย่างนั้น ได้นั่งอย่างนั้น ได้พูดอย่างนั้น ได้นิ่งอย่างนั้น

ออกจากบ้านแม้นั้น ไปสู่บ้านโน้น แม้ในบ้านนั้น เราก็ได้ยืนอย่างนั้น ได้นั่งอย่างนั้น ได้พูดอย่างนั้น ได้นิ่งอย่างนั้น ออกจากบ้านแม้นั้นแล้ว กลับมาสู่บ้านของตนตามเดิม ดังนี้ ฉันใด

ภิกษุก็ฉันนั้นแล ย่อมระลึกชาติที่เคยอยู่อาศัยในกาลก่อนได้เป็นอันมาก คือระลึกได้หนึ่งชาติบ้าง สองชาติบ้าง ... ระลึกชาติที่เคยอยู่อาศัยในกาลก่อนได้เป็นอันมาก พร้อมทั้งอาการ พร้อมทั้งอุเทส ด้วยประการฉะนี้”

การระลึกชาติแบบมหาโชดกสอนนั้น มันเป็นเพียงแค่การจำอดีตได้เท่านั้น

บอกตรงๆ ยิ่งอ่านหนังสือมักกะลีผลมากครั้งเข้า ก็เห็นความสมองหมา ปัญญาควายของพระโชดกมากยิ่งขึ้น

คนอย่างนี้ ก็สมควรที่จะไปอบายภูมิแล้ว  บิดเบือนคำสอนของพระพุทธองค์อย่างมืดบอดทางปัญญา เพราะ ความอยากดัง เท่านั้น

ตอนนี้ ก็ไปดังในอบายภูมิสมใจท่านแล้ว เพราะ เกจิอาจารย์เจ้าสำนักทั้งหลาย ก็มีท่านโชดกคนนี้ คนเดียวเท่านั้น ที่ไปอบายภูมิ


พระพิมลธรรม อาจารย์ของท่านโชดกยังไปอยู่สวรรค์ชั้น 1 เลย ………………..




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น