บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

นารีผลกับความเท็จ [1]

การที่พระมหาโชดกทำตัวทุเรศทุรังไม่เป็นพระผู้ใหญ่ ไปโจมตีแบบโกหกว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำเลิกสอนวิชาธรรมกายแล้ว 

สำหรับเหตุผลของการเลิกสอนวิชาธรรมกายของหลวงพ่อวัดปากน้ำนั้น มหาโชดกโกหกว่า เกิดจากหลวงพ่อวัดปากน้ำมาเรียนวิชายุบหนอพองหนอของท่าน  แล้วเกิดศรัทธามหาศาล จึงเลิกสอนวิชาธรรมกาย

นี่เป็นความเลวอันสุดๆ ของมหาโชดกในชาตินี้ของท่าน ซึ่งทำให้เกิดสงครามระหว่างสายปฏิบัติธรรม 2 สายคือ ยุบหนอพองหนอกับวิชาธรรมกายมาถึง ณ ปัจจุบันนี้

ความจริงถ้าพระมหาโชดกเลวเฉพาะตัวท่านเรื่องนี้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่มรดกความเลวดังกล่าวนั้น ได้ตกทอดมาถึงลูกศิษย์ 

กล่าวคือ ลูกศิษย์ของพระมหาโชดกก็ยังจะโจมตีหลวงพ่อวัดปากน้ำต่อ

เดือดร้อนถึงลูกศิษย์ของหลวงพ่อวัดปากน้ำก็ต้องเอาความจริงมาเปิดเผยบ้าง  ข้อมูลในส่วนนี้ ได้มาจาก http://www.gotoknow.org/posts/215071  ผลการเขียนของคุณ ธารณธรรม

ค่อยๆ อ่านไป ผมจะวิพากษ์วิจารณ์ไปด้วย

ท่านวัดอัมพวันVS นิยายมักรีผล VS ... สวนแก้ว โดย ธารณธรรม

เป็นนิยายที่แต่งไม่สมกับเหตุการณ์จริง อ่านทั้งหมด ท่านป่าม่วงVS นิยายตุ๊กตาผล VS ... สวนแก้ว แห่งสารขัณฑ์ประเทศ

ขอเชิญชาวพุทธวิจารณ์ และผู้ปฏิบัติสมถวิปัสสนาวิชชาธรรมกายควรทราบ

เรื่องนี้ขอทำความเข้าใจกันก่อน  นวนิยายเรื่องมักกะลีผล กับ นารีผลนั้น เป็นนวนิยายจริงๆ ดังนั้น เราจึงไม่ควรเอามาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเป็นข้อเท็จจริงแบบเชิงวิชาการ

เพราะ นิยายมันก็ต้องโม้ไปตามจินตนาการของคนแต่ง แต่กรณีนี้เป็นกรณีพิเศษ คือ เจ้าอาวาสวัดป่ามะม่วงเป็นตัวเอกในนิยาย เป็นชื่อที่แต่งขึ้นในนวนิยาย 

แต่เมื่อกล่าวถึงหลวงพ่อวัดปากน้ำ กลับกล่าวถึงกันเอาจริงๆ จังๆ  และส่งผลเสียต่อหลวงพ่อวัดปากน้ำด้วย  มันถึงเป็นเรื่องกันขึ้นมา 

ผมขอบอกไว้ ณ ที่นี่อีกครั้งว่า สุทัสสา อ่อนค้อมนี่ ตายเมื่อไหร่ไปนรกทันที แบบหนักหนาสาหัส แบบไม่มีใครช่วยได้เลย

คิดไม่ถึง ไม่น่าเชื่อ เป็นได้ไง ! โปรดพินิจพิเคราะห์ตามกลักกาลามสูตร แล้วจะเห็นแจ้ง

ท่านป่าม่วงVS นิยายตุ๊กตาผล VS บรรยายธรรมที่สำนักปฏิบัติธรรมสวนแก้ว เป็นดังนี้คือ:

๑. ท่านป่าม่วงเกิดเมื่อ ปี ๒๔๗๑ ที่สารขัณฑ์ประเทศ

๒. ท่านป่าม่วงอุปสมบทเมื่อ ปี ๒๔๙๑ ณ วัดพรหมบุรี สิงห์นคร ขณะที่มีอายุ ๑๙ ปี ๘ เดือน (เพราะปี ๒๔๘๓ หายไป ๓ เดือน คือเดือน มกรคม กุมภาพันธ์ และมีนาคม โดยทางราชการได้ประกาศเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่ของประเทศไทยจากวันที่ ๑๓ เมษายน ไปเป็นวันที่ ๑ มกราคม ตามอย่างสากล โดยถือเอาปี ๒๔๘๔ เป็นปีแรก

นิยายตุ๊กตาผลบอกว่า อุปสมบทเมื่ออายุ ๒๑ ปี เพราะได้นับรวมอายุที่ในท้องแม่ประมาณ ๑๐ เดือน แต่คิดเพิ่ม ๑ ปี จึงเป็นมีอายุ ๒๐ปี ๘ เดือน

๓. ท่านป่าม่วงสำเร็จมัธยมปีที่ ๔ จากโรงเรียนสุวิทดารามาส เมื่อ ปี ๒๔๘๗

นิยายตุ๊กตาผลบอกว่า ท่านป่าม่วงเรียนมัธยมปีที่ ๔ ที่โรงเรียนสวนกุหลาบ แต่ไม่ปรากฏชื่อโรงเรียนสวนกุหลาบในประวัติท่านป่าม่วง

๔. ศึกษาดนตรีไทย มีปี่พาทย์มอญ แตรวงเครื่องสาย การประพันธ์บทขับร้อง จากโยมบิดาและคุณหลวงธารา

ต่อมาคุณปู่ พันตรี หลวงธารา ได้นำพระคุณเจ้าเข้าฝากตัวกับจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี เพื่อเข้าศึกษาโรงเรียนนายตำรวจ

พระคุณเจ้าศึกษาอยู่ประมาณ ๑ เดือน จึงขอลาออกเนื่องจากไม่ถูกอัธยาศัยในวิชานี้

แต่นิยายตุ๊กตาผลบอกว่า เรียนดนตรีไทยกับหลวงประดิษฐ์ไพเราะ ต่อมาหลวงประดิษฐ์ไพเราะ ได้พาไปพบจอมพล ป. พิบูลสงคราม เพื่อขอให้ฝากเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจ

ท่านป่าม่วงเรียนนายร้อยตำรวจเพียงสามเดือน ก็ขอลาออก โดยอ้างว่าโดนรุ่นพี่กลั่นแกล้ง

ยิ่งกว่านี้นิยายตุ๊กตาผลยังบอกต่อไปว่า หลวงประดิษฐ์ไพเราะได้พาไปเรี่ยไรเงินสร้างโบสถ์กับจอมพล ป. พิบูลสงคราม และบอกว่าจอมพล ป. พาเข้าเฝ้าสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี เพื่อเรี่ยไรเงินสร้างโบสถ์

เป็นที่น่าสังเกตว่า ในประวัติท่านป่าม่วงไม่ได้เป็นศิษย์หลวงประดิษฐ์ไพเราะ ดังนั้นเรื่องที่ว่าจอมพล ป. พาเข้าเฝ้าสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีเพื่อเรี่ยไรเงินสร้างโบสถ์นั้น จึงเป็นเรื่องที่น่าสงสัย เป็นการไม่สมควร เป็นการอาจเอื้อมเบื้องสูง

๕. ปี ๒๔๙๑ ศึกษาพระธรรมวินัย และวิปัสสนากรรมฐาน (จากหนังสือเลื่อนสมณศักดิ์ชั้นเทพ)

แต่ในหนังสือกฎแห่งกรรม...เล่ม ๑ บอกว่า ศึกษาพระธรรมวินัย เพียงอย่างเดียว

๖. ปี ๒๔๙๓ ศึกษากัมมัฏฐานกับพระครูนิวาสธรรมขันธ์ (หลวงพ่อเดิม) อำเภอหนองโพธิ์ จังหวัดนครสวรรค์

นิยายตุ๊กตาผลบอกว่า ศึกษาวิชาอาคมต่างๆ จากหลวงพ่อเดิม ระหว่างปลายปี ๒๔๙๑ - ต้นปี ๒๔๙๒ เป็นศิษย์ก้นกุฏิของหลวงพ่อเดิม และได้เรียนวิชาคชศาสตร์เป็นคนแรกและคนสุดท้าย”

แต่มีข้อสังเกตนิดหนึ่งที่นิยายตุ๊กตาผล ไม่ได้กล่าวถึงกิจที่หลวงพ่อเดิม ท่านตื่นตี ๔ เพื่อปฏิบัติกรรมฐานทุกวัน และมีหนังสือ๒ เล่มติดตัวหลวงพ่อเดิมอยู่ตลอดเวลา คือ ๑. มูลสมถะและทางวิปัสสนา และพระอภิธรรมภายใน (รัตนะและคณะ, ๒๕๔๖(?), พระอภิญญาเมืองสยาม, กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ฉัตรแก้ว,หน้า๑๘).

๗. ปี ๒๔๙๓ ศึกษาและ “ปฏิบัติสมถกรรมฐาน” วิชชาธรรมกาย กับพระภาวนาโกศลเถระ(สด จันฺทสโร) หลวงพ่อวัดปากน้ำ อำเภอภาษีเจริญ จังหวัดธนบุรี (จากหนังสือเลื่อนสมณะศักดิ์ชั้นเทพ..... ๒๕๔๔)

ตรงกันกับที่ท่านป่าม่วงเทศน์ที่สำนักปฏิบัติธรรมสวนแก้วเมื่อ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๔๑ ว่ามาเรียนวิชชาธรรมกายกับหลวงพ่อวัดปากน้ำปี ๒๔๙๓ และสำเร็จวิชชาธรรมกายในปีนั้นด้วย

ตรงกับนิยายตุ๊กตาผลที่บ่งบอกว่า ท่านป่าม่วงเรียนวิชชาธรรมกาย กับหลวงพ่อวัดปากน้ำ ครั้งแรก ปี ๒๔๙๓ แต่ต่างกันที่ตุ๊กตาผลไม่ได้บอกว่า ท่านป่าม่วงสำเร็จวิชชาธรรมกายในปี ๒๔๙๓

ตรงนี้ขอยืนยันว่า เจ้าอาวาสวัดป่ามะม่วงไม่สำเร็จวิชาธรรมกายนะครับ  เพราะวิชาธรรมกายไม่มีการสำเร็จกันอย่างที่เข้าใจกันผิดๆ

วิชาธรรมกายเป็นการปฏิบัติธรรม ที่พระพุทธเจ้าทรงสอนนั่นแหละ ถ้าจะสำเร็จก็คือ บรรลุพระอรหันต์






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น